การขึ้นบ้านใหม่
โบราณอีสานถือการขึ้นบ้านใหม่ตามทิศ และตามวัน ถือเคล็ดในการเอาของมงคลขึ้นด้วยดังนี้
- ถ้าขึ้นทิศบูรพา (ตะวันออก) ให้เอาเงินเอาทองใส่ขันถือเดินขึ้นก่อนจึงมีลาภ
- ถ้าขึ้นทิศอุดร (เหนือ) ให้ขนเอาของขึ้นก่อน จะอยู่เย็นเป็นสุข
- ถ้าขึ้นทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) ให้เอาของขาว เช่น ผ้าขาว งา และของขาว ที่เป็นมงคลอย่างอื่นก็ได้ขึ้นก่อน จะดีและมีลาภ
วันขึ้นบ้านใหม่ วันขึ้นบ้านใหม่ตามโบราณนิยมนั้น เป็นวันพุธ พฤหัส และวันศุกร์ จะอยู่เป็นสุขดีนักแลและอย่าลืมขึ้นตามเวลาเป็นมงคลและอย่าลืมขึ้นตามเวลาเป็นมงคล ของวันที่ขึ้นบ้านใหม่ด้วย และก่อนจะปลูกบ้านให้ดูโสกเฮือนในหมวดโสกต่าง ๆ ก่อน แล้วทำบ้านให้ถูกตามโสกนั้น จะเป็นมงคลสมบูรณ์
วิธีขึ้นเฮือนใหม่
ก่อนเวลาที่จะขึ้นบ้านใหม่ คนโบราณอีสานจะแบ่งออกเป็นสองพวก พวกที่หนึ่งมีจำนวนมาก พวกนี้จะทำหน้าที่เป็นเจ้าของบ้านอยู่กับบ้าน พวกนี้จะเอาใบกล้วยมาวางไว้ที่ดินตรงทางขึ้นบันได เอาหินมาทัับไว้แล้วคอยดูอยู่ อีกพวกหนึ่งประมาณ 3 คนเป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน ผู้ชายเป็นหัวหน้าใส่กุบเกิ้ง (หมวกงอบใบใหญ่) พายถง (ย่าม) ใบใหญ่ ในถงนั้นจะมีสิ่ว, ฆ้อน, ของค้ำของคูณ (ของที่เป็นมงคล) เช่น คุด, เขา, นอ, งาช้าง เป็นต้น ผู้หญิง 2 คน จะหาบกระบุงสายยาว หรือกระต่า (ตระกร้า) ก็ได้ และแต่งตัวด้วยผ้าถุงใส่งอบ และใส่เสื้อดำจุบคาม ในกระบุงนั้นจะมี เงิน, ทอง, เสื้อ, และของกินทุกอย่างพอได้เวลา หัวหน้าจะถือไม้เท้า และใส่กุบเกิ้งพายถงเดินออกหน้า พอมาถึงบ้านแล้วจะยืนมองดูนิดหนึ่ง แล้วพาลูกหาบเดินเวียนขวา (ให้บ้านอยู่ด้านขวามือ) 3 รอบ มาหยุดยืนอยู่ที่บันได ยังไม่ขึ้น พวกที่ทำหน้าที่เจ้าของบ้าน ซึ่งคอยจ้องอยู่แล้ว ก็ทำเป็นขึงขังพอได้ทีก็ถาม และตอบกันว่า
เจ้าของบ้าน เฮ้ย แม่นไผ หาบกระดินคอนกระต่าขนข้าวของสิไปไส?
พ่อพารหมณ์ โอย พวกข้าน้อย มาแต่เมืองหมั่นคำทองพุ้นดอก ได้ยินข่าวว่าลูกหลานปลูกเฮือนใหม่ใส่หญ้าเต็ม ว่าสิมาค้ำมาคูณให้ ความเจ็บบ่ให้ได้ ความไข้บ่ให้มี ให้อยู่ดีมีแฮง, บ่ให้ทุกข์, บ่ให้ยาก, บ่ให้อึดให้อยาก, บ่ให้ขาด, บ่ให้เขิน จักอันจักแนว
เจ้าของบ้าน เออ คันสิมาค้ำมาคูณให้ลูกหลานคือว่านั่นได้หยังมาแน่?
พ่อพราหมณ์ ได้มาพร้อมเหมิดทุกแนวนั่นหล่ะ
เจ้าของบ้าน กุบส่องฟ้า ผ้าส่องดาว ได้มาบ่?
พ่อพราหมณ์ เออ ข้อยข้า หญิงชาย เครื่องใช้ไม้สอย เงินคำ ถ้วย บ่วง ข้าวน้ำ ถ้ำ ปลา (ไหปลาแดก) แก้วแหวนแสนสิ่งได้มาเหมิด
เจ้าของบ้าน ของอยู่ของกินได้มาบ่?
พ่อพราหมณ์ ได้มา
เจ้าของบ้าน เหล้ายา ปลาปิ้ง ได้มาบ่?
พ่อพราหมณ์ ได้มา
เจ้าของบ้าน ความบ่อึด บ่อยาก บ่ทุกข์ บ่ยาก บ่ใช้ บ่หนาว ได้มาบ่?
พ่อพราหมณ์ ได้มา
ฝ่ายเจ้าของบ้านก็พูดต่อว่า เออ คันเพิ่นมาค้ำมาคูณบ่ให้เจ็บ บ่ให้ไข้ บ่ให้อึด บ่ให้อยาก บ่ให้ทุกข์ บ่ให้ยาก หยังจักแนวกะเชิญขึ้นมาผี้
จากนั้นพวกแขก หรือพ่อพราหมณ์ที่มาแต่เมืองมั่นคำทอง ก็จะเหยียบหินล้างเท้าแล้วจึงขึ้นบ้าน เอาถงไปห้อยไว้ที่เสาแฮก ถงนี้จะเอาไว้ 7 วัน จึงจะเอาออกได้ แต่ก่อนห้อยพ่อพาหมณ์ ที่มาจากเมืองมั่นคำทองจะหยิบเอาสิ่วกับฆ้อนออกมาจากถง (ย่าม) แล้วเอาฆ้อนตีสิ่วเพื่อห้อยถง 7 ครั้ง และว่าคำค้ำคูณแต่ละครั้ง ดังนี้
ตอกบาดหนึ่ง ให้ได้ฆ้องเก้ากำ
ตอกบาดสอง ให้ได้คำเก้าหมื่น
ตอกบาดสาม ให้ได้เล้าข้าวหมื่นมาเยีย
ตอกบาดสี่ ให้ได้เมียสาวมานอนพ่างช้าง
ตอกบาดห้า ให้ได้ช้างม้ามาเทียมโฮง
ตอกบาดหก ให้ได้ชายโถงมานอนเฝ้าเล้าข้าว
ตอกบาดเจ็ด ให้ได้ผู้เฒ่ามานอนเฝ้าเฮือน
โอมอุอะมุมะมูนมามหามูลมังสวาหุม? ตอกแล้วกะเอาถงห้อยไว้
ที่มา : ตำรามรดกอีสาน.สวิง บุญเจิม ป.ธ 9 M.A. สำนักพิมพ์มรดกอีสาน. หน้า 27-30.